3 ข้อต้องรู้ การจัดห้องนอนลูก
เคล็ดลับแต่งห้องนอนลูก และวิธีการเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างไรเพื่อให้ทั้งคุณแม่มือใหม่ และลูกน้อยรู้สึกแฮปปี้นั้นมาดูกันค่า
1. โทนสีห้องต้องสดใส เน้นโทนสีสว่างไว้ก่อน
เพื่อดึงดูดความสนใจให้กับเด็ก ๆ การเลือกโทนสีห้องแต่งห้องนอนลูก ควรเลือกโทนสีที่ให้ความสดใส ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีม่วงอ่อน สีเหลืองไข่ไก่นะคะ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกสดชื่น, มีชีวิตชีวา, อารมณ์ดี และมีจินตนาการในการพัฒนาทักษะ และทำกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวัน
และไม่เพียงแต่โทนสีของห้องเท่านั้น พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้แต่งห้องนอนลูก ก็ควรเลือกใช้สไตล์ในการตกแต่งไปในทิศทางเดียวกันกับโทนสีของห้อง เช่น ที่นอน, เก้าอี้, ตู้, เตียง, โต๊ะเขียนหนังสือ อาจจะเลือกใช้โทนสีขาว หรือเลือกสไตล์มินิมอล เพื่อความเรียบง่ายและเข้ากับวัยของเด็ก ๆ นั่นเองค่ะ
2. เฟอร์นิเจอร์เลือกให้เหมาะกับวัย เปลี่ยนแปลงได้เมื่อถึงเวลา
ไอเดียแต่งห้องนอนลูกด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ เช่น เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ผ้าปูที่นอน อาจจะเลือกตกแต่งตามช่วงอายุได้เลยค่ะ เพราะเด็ก ๆ ในแต่ละวัยมีพัฒนาการ และการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เช่น เริ่มแรกภายในห้องอาจจะยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งมากนัก เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องใช้งานได้จริงอย่าง เตียงนอน เปล ตู้เก็บเสื้อผ้าขนาดเล็ก และของเล่นเสริมพัฒนาการเล็ก ๆ น้อย แล้วค่อยปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เมื่อเด็ก ๆ เริ่มมีพัฒนาการหรือเติบโตขึ้นตามวัย
และสำหรับบ้านที่มีลูกมากกว่า 1 คน การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถรองรับลูก ๆ ได้พร้อมกันจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้ค่อนข้างมาก เช่น แต่งห้องนอนลูก ด้วยเตียงนอนสองชั้น ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแบบ หลากหลายฟังก์ชัน เป็นได้ทั้งที่นอน โต๊ะเขียนหนังสือ หรือแม้แต่ตู้เก็บหนังสือเลยทีเดียวค่ะ
3. ปลอดภัยด้วยอุปกรณ์เสริม
เมื่อแต่งห้องนอนแม่และลูกตามความต้องการ และความเหมาะสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืม! ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในการแต่งห้องนอนลูก เพราะเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีขอบมุม และเหลี่ยมมุม
เด็ก ๆ เป็นวัยที่ซน และมีความไวไม่ว่าจะเดินหรือวิ่ง หากคุณแม่เผลอปล่อยให้ลูก ๆ อยู่ในห้องตามลำพัง อาจจะเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้ เช่น เดินชนขอบเตียง, ขอบตู้ ดังนั้นการหาอุปกรณ์เสริม เช่น ตัวติดมุมขอบตู้, ขอบเตียง, ขอบโต๊ะ, โฟมกันกระแทก, เทปป้องกันการชน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ จึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.parentsone.com/